วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อชูการ์ท้องเสีย

              จากประสบการ์ณโดยตรงของผู้เขียนเอง  ลูกๆชูการ์ไม่เคยท้องเสียนะคะ  แต่จะพบได้มากตามกลุ่มทั่วไป เรื่องชูการ์ท้องเสีย ผู้เขียนไปเจอบทความนึงซึ่งเป็นคำแนะนำที่ดีค่ะ ก่อนอื่น เราต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่าชูก้าของเรา ท้องเสีย หรือถ่ายเหลวเฉยๆ เพราะถ้าเป็นการถ่ายเหลวนั้น อาจจะเป็นเพราะว่า ลูกๆชูการ์ของเรากำลังปรับสมดุลของแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร และลำใส้ อาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนอาหารอย่างกระทันหัน หรือให้กินอะไรที่แปลกไปจากเดิม ซึ่งมักเรียกกันว่า "ปรับท้อง" ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าหากว่าเป็นการถ่ายเหลว นั้นอันตรายมาก เรามีวิธีสังเกต และแยกแยะดังนี้

1. นอนได้น้อย เพราะมักจะตื่นมาถ่าย บ่อยๆ
2.พยามเบ่งถ่ายบ่อยจนเกินไป
3. อุจจาระมีกลิ่น อาจเป็นกลิ่นคาว หรือกลิ่นเหมือนนมเปรี้ยว
4. เวลาหลับ หายใจแรง และไม่สม่ำเสมอ อาจแปลได้ว่าเกิดอาการปวดท้อง
5. แรงเกาะลดลง
6. ความร่าเริงลดลง ไม่ค่อยเล่น
7. มือ เท้า จมูก ซีด
8. ถ่ายออกมาเป็นน้ำ โดยบางทีอาหารยังไม่ทันย่อยเลย
9. อาจทานอาหารได้น้อยลง(บางตัวยังสามารถทานได้ดี)
10. หนังบริเวณหลังคอ ลองหยิบดูแล้วหนังคอตั้งเป็นสัน นั่นแสดงถึงการขาดน้ำ

              หากมีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบนำไปพบสัตว์แพทย์ เพื่อตรวจอุจจาระดูเชื้อว่าเป็นอะไร แต่ถ้าหากว่ายังไม่สามารถพาไปหาหมอได้ แนะนำให้ ซื้อ  สปอนเซอร์ หรือเกเตอเรด ที่เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่หลังออกกำลังกาย มาป้อน โดยให้ป้อน ชั่วโมงละ 5-6 หยดไม่ให้ขาด จนกว่าจะพาไปหาหมอ โดยไม่ต้องงดอาหาร  หลังจากนั้นควรอธิบายให้หมอฟังถึงอาการ และอาหารที่ให้ ให้ละเอียด แล้วทำการรักษาตามที่หมอแนะนำ


ที่มา :: http://www.sgloverclub.com/thread-7309-1-1.html

ว่าด้วยเรื่องที่นอนของชูการ์ ^^

       สวัสดีค่ะ...ชูการ์เป็นสัตว์หากินตอนกลางคืน เพราะฉะนั้นเวลาตอนกลางวันส่วนใหญ่ที่เราเห็นกิจกรรมหลักของเหล่าชูการ์กันก็คือ การนอนค่ะ  ชูการ์ของผู้เขียนเองส่วนมากจะขี้เซามากๆๆเลยค่ะ  ถ้าคืนไหนปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นกันในห้อง  ตื่นเช้ามาก็หากันเข้าไปเถอะค่ะ  เพราะเจ้าพวกเนี้ย หาที่นอนเก่งมากกกกกก  ซุกเก่งเป็นที่หนึ่งเลยล่ะค่ะ  วันนี้เลยอยากจะแชร์ภาพน่ารักๆในการนอนของเจ้าตัวแสบทั้งหลายให้ได้ชมกันค่ะ

              นอนในกรง




 

              นอน(เกือบจะ)ในกรง


              เจ้าตัวแสบเลือกที่นอนเอง :P




          แม่พาออกมานอน



หนอนนก และ หนอนแว๊ก

       วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องหนอนๆ กันนะคะ สำหรับชูการ์ไกลเดอร์ที่โตพอที่จะมีภูมิต้านทานและระบบย่อยทำงานได้สมบูรณ์เต็มที่แล้ว และสามารถทานอาหารได้หลากหลายขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วจะต้องมีอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ผู้เลี้ยงบางคนก็เริ่มตัดสินใจว่าจะเริ่มให้ทานอาหารสดบ้าง โดยหลักๆที่นิยมกันก็คือ หนอน แต่จะให้น้องชูของเรากินหนอนอะไรดีล่ะ หลักๆที่จะนำมากล่าวถึงวันนี้ก็คือ หนอนนก(Mealworm) และหนอนแว๊กซ์(Waxworm) ซึ่งหลายคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าหนอนอะไรดีกว่ากัน ถ้าอย่างนั้นเราไปรู้จักหนอนแว็กซ์ และหนอนนก กันดีกว่าค่ะ ว่าแต่ละชนิดเป็นอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

       หนอนนก(MEALWORM)
              หนอนนกนั้นคือตัวอ่อนของแมลงปีกแข็งจำพวกด้วงชนิดหนึ่งคือ Meal Beetle โดยในขณะที่เป็นหนอนนั้นจะมีความยาวประมาณ 1-1.5 นิ้ว โดยในระยะที่เป็นหนอนนั้นจะอยู่ในช่วง 1-2 เดือน หลังจากนั้นจะกลายเป็นดักแด้




       หนอนแว๊กซ์(WAXWORM)

              หนอนแว๊กซ์นั้นก็คือตัวอ่อนของผีเสื้อกลางคืน Lesser Wax Moth และ Greater Wax Moth โดยผีเสื้อกลางคืนสองชนิดนี้จะมีสปีชี่ส์ หรือสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกันมาก โดยทั่วไปแล้วหนอนแว๊กซ์นั้นจะมีความยาวเมื่อใกล้จะเป็นดักแด้ปนะมาณ 1 นิ้ว หลังจากนั้นจะเริ่มถักใยรอบตัว และเข้าสู่ระยะดักแด้ โดยระยะที่เป็นหนอน นั้นจะนาน 3-4 เดือน ซึ่งระยะนี้เป็นระยะที่เหมาะกับการนำมาให้ชูการ์ไกลเดอร์กิน แต่ถ้าเป็นดักแด้แล้วไม่ค่อยแนะนำ เนื่องจากกากจะเยอะ และถ้าชูการ์ไม่คายกาก อาจทำให้ติดคอได้




       จากตารางจะเห็นถึงปริมาณสารอาหารต่างๆในหนอนทั้งสองชนิด โดยหนอนนกนั้นจะมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าหนอนแว๊กซ์ ส่วนหนอนแว๊กซ์นั้นจะมีไขมันสูงกว่าหนอนนก ดังนั้นหนอนนกจึงสามารถให้ชูการ์ไกลเดอร์ทานได้มากกว่าหนอนแว๊กซ์ เพราะหนอนแว๊กซ์นั้นทานมากๆจะทำให้ชูการ์นั้นอ้วน และนอกจากนี้หนอนทั้งสองชนิดนั้นมีปริมาณ แคลเซียม/ฟอสฟอรัส ที่ต่ำมาก หากชูการ์ไม่ได้รับแคลเซียมพอเพียงแล้วล่ะก็การทานหนอนทั้งสองชนิดมากเกินไป จะทำให้กระดูกของชูการ์ไกลเดอร์นั้นไม่แข็งแรง และบางลงแต่บางคนสงสัยว่าทำไมคนส่วนใหญ่มักนิยมป้อนชูการ์ไกลเดอร์ด้วยหนอนแว๊กซ์มากกว่าหนอนนก...เหตุผลก็คือ หนอนแว๊กซ์นั้น โดยส่วนมากจะถูกเลี้ยง ในที่มีความสะอาดมากกว่าหนอนนก ทำให้มีโอกาสที่เชื้อโรคที่เป็นอันตรายนั้นจะแฝงตัวอยู่ในหนอนแว๊กซ์นั้นได้น้อย
พูดกันภาษาง่ายๆก็คือ โดยมากแล้วหนอนแว๊กซ์จะสะอาดกว่าหนอนนก จึงกลายเป็นความเชื่อที่ว่า ชูการ์ไกลเดอร์กินหนอนแว๊กซ์ดีกว่ากินหนอนนก  แต่อย่างไรก็ตาม หนอนทั้งสองชนิดนี้ก็ไม่ควรนำมาเป็นอาหารหลักของชูการ์ไกลเดอร์ เนื่องจากมีโปรตีนต่ำ และมีฟอสฟอรัสสูง  ดังนั้นหากใครคิดว่าจะให้ชูการ์ไกลเดอร์ทานหนอนนก หรือหนอนแว๊กซ์เป็นอาหารมื้อหลัก นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก จะแนะนำให้เป็นอาหารว่าง หรือทานเล่นๆได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :: http://www.sgloverclub.com/thread-10044-1-1.html



เมื่อลูกน้อยเป็นแผล T^T

       จากประสบการณ์ โดยตรงของผู้เขียนเอง ลูกชูการ์เคยเป็นแผลหนักมากอยู่ 2-3 ครั้ง สาเหตุหลักๆเกิดจากเวลาที่ผสมพันธ์กันแล้วโดนตัวผู้กัดที่คอแรงเกินไปเลยเป็นแผลค่ะ  อีกครั้งที่หนักมากคือ โดนแมวตบที่แขนค่ะ ถึงขนาดเนื้อแหว่งเห็นกระดูก พังผืดฉีก แต่ก็สามารถผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายนั้นไปได้  วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำยาที่ใช้รักษาลูกๆตอนเป็นแผล  ซึ่งก็ใช้ได้ผลอย่างดีมาตลอดค่ะ

       Nano  Wound  ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี  ที่รักษาแผลทุกชนิดในสัตว์เลี้ยง  รวมทั้งแผลที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย  เชื้อรา  ไวรัส  และกรณีสัตว์เลี้ยงมีปัญหาด้านผิวหนัง  เช่น  บาดแผล  แผลหนอง  แผลอักเสบติดเชื้อ  ซึ่งตัวผู้เขียนเองใช้ยารักษาแผลตัวนี้ให้ลูกๆอยู่ตลอดเวลาที่ลูกๆเป็นแผลค่ะ  เรียกได้ว่าต้องมีติดห้องไว้  ขาดไม่ได้เลยทีเดียว


       มาดูกันค่ะ  ว่าแผลที่ลูกๆของผู้เขียนเคยเป็นกันมานั้นเยอะขนาดไหน (ทุกแผลตอนนี้หายปกติดีแล้วนะคะ)




ขอบคุณข้อมูล nano wound :: https://www.facebook.com/media/set/?set=a.442725035799703.99285.356665277739013&type=1

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บันทึกเจ้าตัวน้อย...เมื่อชูการ์คลอดลูก



      ชูการ์ไกรเดอร์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก  เริ่มผสมพันธ์ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ใช้เวลาตั้งต้องประมาณ 15-18 วัน หลังจากนั้นจะคลอดลูกออกมาและเก็บลูกไว้ในกระเป๋าหน้าท้อง ประมาณ 2 เดือน เมื่อลูกชูการ์เริ่มแข็งแรงแล้วก็จะออกมาจากกระเป๋าหน้าท้องแม่ในที่สุด ช่วงที่ชูการ์มีลูกผู้เขียนได้ทำการเก็บข้อมูลแต่ละช่วงของลูกชูการ์ไว้ ซึ่งจะได้อธิบายต่อตามด้านล่างเลยจ้าาาาา

       ลูกชูการ์แรกคลอด จะมีลักษณะเป็นเส้นสีแดงๆยาวประมาณ 2 ซม. ลักษณะของตัวจะเรียบๆ ไม่มีอวัยวะใดๆ  และจะค่อยๆกระดึ๊บเข้ากระเป๋าหน้าท้อง โดยแม่ชูการ์จะช่วยเลียเพื่อให้ลูกเข้ากระเป๋าได้ง่ายยิ่งขึ้น


     เมื่อลูกชูการ์อายุประมาณ 1 เดือน จะเริ่มมีอวัยวะต่างๆ แต่ยังไม่มีขน และยังคงอยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง


       ลูกชูการ์ของผู้เขียนได้ออกจากกระเป๋าหน้าท้องแม่ตอนอายุได้ 1 เดือน 29 วัน ตอนที่ออกมาขนยังไม่ขึ้น ตัวเริ่มดำ มีลายที่หลัง แต่ก็ยังผลุบๆโผล่ๆ เข้า - ออก กระเป๋าหน้าท้องอยู่บ้าง


       ลูกชูการ์อายุ 2 เดือน 10 วัน ขนตามตัวเริ่มขึ้นแล้วค่ะ


       2 เดือน 15 วัน ตาเปิดแล้วค่ะ แต่ขนยังขึ้นไม่ทั่วทั้งตัว หลังจากตาเปิดประมาณหนึ่งสัปดาห์ขนถึงจะขึ้นเต็มตัวค่ะ กลายร่างจากเอเลี่ยนน้อยๆ เป็นชูการ์น้อยเต็มตัว น่ารักไหมคะ??


วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แนะนำตัวลูกๆชูการ์ ^^

       จุดเริ่มต้นของบล็อคนี้เกิดจากความชอบ ความหลงไหลในความน่ารัก ซุกซนของเจ้าลูกๆตัวแสบของผู้เขียนเอง โอกาสนี้ผู้เขียนจึงอยากจะแนะนำตัวลูกๆชูการ์ไกรเดอร์ ผู้จุดประกายความคิดทำให้เกิดบล็อคนี้ขึ้นมา..เรียกได้ว่าเป็นเจ้าของบล็อคอีกคนเลยก็ว่าได้ คริ คริ

       ก่อนจะไปถึงลูกนั้น ขอแนะนำแม่ชูการ์ก่อนเลย แหะๆ แม่ชูการ์(ตัวผู้เขียนเอง) ชื่อ ขวัญ ค่ะ ^^
ลูกๆชูการ์ที่เลี้ยงอยู่มีด้วยกันทั้งหมด 9 ชีวิตค๊าาาา นี่ยังไม่รวมที่ให้คนอื่นไปเลี้ยงและขายออกไปด้วยนะ ฮ่าาาาาาาาาา

1. สตางค์..ชูการ์จอมแอ๊บแบ๊ว รับเข้ามาเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2555

                             
                   
                   

2. แสตมป์..หล่อ คม เข้ม  รับเข้ามาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2555



3. สต๊อป..หลานสาวตัวแรก ลูกของสตางค์และแสตมป์  เกิดวันที่ 9 สิงหาคม 2555



4. ตัวเล็ก..นี่ก็เหลนตัวแรก(นางเป็นลูกของสตาร์ สตาร์เป็นลูกของสตางค์กะแสตมป์ เป็นน้องของสต๊อป งงมั้ย 555) เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556



5. สติซ..ไวท์เฟสตัวแรกของบ้าน หล่อ โหด ร้านฝุดๆ รับมาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556



6. หมีพูห์..หนุ่มหล่อ อัธยาศัยดี(ตัวนี้ได้ฟรีจากการซื้อสติซ 5555) รับมาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556


 7. แองเจิล..สาวขี้เซา ชอบนอนละเมอ หลับได้ทุกที่ รับมาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556



8. ตัวน้อย..สาวน้อยจากจตุจักร สวย เข้ม ชอบเหวี่ยงเวลาขัดใจ รับมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556



9. พีซซี่..สาวน้อยนครปฐมผู้มีหูข้างเดียว รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ รับมาเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2557